ผู้การที่รัก
ปีที่แล้วได้รู้จักกับเพื่อนใหม่สี่ขา ชื่อสุดเท่ส์ “ผู้การ”เราเจอกันโดยบังเอิญระหว่างที่ทรายกับแฟนกำลังเดินไปที่สวนสาธารณะในหมู่บ้าน ได้กลิ่นหอมหวานคล้ายผลไม้ลอยมาตามลม สักพักก็เจอที่มาของกลิ่น สวนมะเดื่อฝรั่ง ได้มีโอกาสคุยกับเจ้าของสวน “น้องแชมป์” และนั่นคือวันแรกที่เราเจอผู้การ น้องเล่าว่ารับผู้การมาจากพี่ชายที่อัมพวา เป็นสุนัขสายพันธุ์อเมริกันพิทบูลเทอร์เรีย นอกจากชื่อเสียงเรียงนามจะน่านับถือแล้ว ชื่อพันธ์ุยังน่าเกรงขามอีกพ่อคุณ
ตอนทรายอายุ 3ขวบ เคยถูกกัด ผู้ต้องหาเป็นสุนัขตำรวจพันธุ์เยอรมันเชฟเพิร์ด (GERMAN SHEPHERD) ขนาดถูกล่ามโซ่ ใส่ตะกร้อครอบปากยังหลุดออกมากัดได้ คิดดูว่าตอนเด็กๆ ทรายจะน่ารักน่าขย้ำขนาดไหน รอยแผลเป็นที่ท้องด้านซ้ายยังคงมีให้เห็นเป็นที่ระทึก
ตอนแรกทรายก็หวั่นๆ ด้วยผู้การมีรูปร่างใหญ่และกล้ามเนื้อที่แข็งแรง น้องแชมป์แนะนำให้ยื่นมือให้ดม ทรายลองยื่นมือออกไป รู้สึกตื่นเต้นระคนความกลัว ผู้การมองหน้าแล้วก็แลบลิ้นเลียแผล่บๆที่หลังมืออย่างอ่อนโยน วินาทีนั้นทรายหลงรักเลย ความกลัวหายไปเป็นปลิดทิ้ง หลังจากวันนั้น ทุกครั้งที่เจอผู้การ ทรายจะทักทายด้วยการยื่นมือให้เลีย พอได้ทำความรู้จักกับผู้การทำให้ทรายเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อพิทบูล น้องแชมป์บอกว่า สายพันธุ์เป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่ชี้ว่าสุนัขจะดุหรือไม่ แต่การให้ความรัก ความเอาใจใส่จากผู้ดูแล และการเลี้ยงดูที่ถูกต้องเป็นปัจจัยสำคัญ ทำให้พิทบูลมีสุขภาพจิตที่ดี เชื่อฟัง และจงรักภักดีต่อเจ้าของ มิน่าล่ะผู้การถึงเป็นเจ้าตูบสุดหล่อแสนใจดี แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่ชินกับเสียงเห่าที่ทรงอานุภาพ โฮ่งทีไร สะดุ้งโหยงทุกทีสิน่า
วันนี้เขียนถึงผู้การเพราะมีเรื่องประทับใจที่อยากจะบันทึกไว้ อยู่บ้านต้านโควิดมาสามสิบกว่าวัน นอกจากตลาดก็ไม่ได้ออกไปไหน เมื่อวานตั้งใจว่าเช้านี้จะไปซื้อของเพิ่ม แต่จะแวะออกกำลังกายที่สวนสาธารณะก่อน ระหว่างเดินไปก็เห็นผู้การเดินลิบๆอยู่ในรั้วบ้าน พอผู้การเห็นทรายก็วิ่งกระดิกหางมาหาอย่างดีใจ เสียใจที่ไม่ได้ยื่นมือออกไปทักทายด้วยเหตุผลเจ้าโควิด อย่าน้อยใจนะผู้การ สิ่งที่ทำให้ตื้นตันคือผู้การจำได้แม้ทรายจะใส่หมวกและปกปิดด้วยหน้ากากผ้า ใครบางคนถึงกล่าวว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ